
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 ณ บริเวณอนุสรณ์สถานขุนเลิศโภคารักษ์ สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดพิธีไหว้มุทิตาสักการะ “ขุนเลิศโภคารักษ์” ประจำปี 2562 ผู้มีคุณูปการต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต โดยมี ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดี ร่วมด้วย ดร.ราชรถ ปัญญาบุญ ผอ.สำนักศิลปะและวัฒนธรรม คุณวิบูลชัย ณ ระนอง กรรมการสภามหาวิทยาลัย คุณวิจิตร ณ ระนอง คุณวิภาพรรณ คูสุวรรณ อาจารย์อัศวิน อรรถธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ตลอดจน คณะผู้บริหาร บุคลากร และนักศึกษา เข้าร่วม



ดร.ราชรถ ปัญญาบุญ ผอ.สำนักศิลปะและวัฒนธรรม กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ในการจัดพิธีไหว้มุทิตาสักการะ “ขุนเลิศโภคารักษ์” จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงขุนเลิศโภคารักษ์ ผู้มีคุณูปการต่อมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ซึ่งได้บริจาคที่ดิน เพื่อสนับสนุนงานด้านการศึกษา และสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต สำหรับพิธีดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์ และความร่วมมือร่วมใจ จากหลายภาคส่วน ทั้งคุณวิจิตร ณ ระนอง คุณวิภาพรรณ คูสุวรรณ คุณท่านวิบูลชัย ณ ระนอง ตลอดจนทายาท ขุนเลิศโภคารักษ์ ที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริม มหาวิทยาลัยในทุกด้านเสมอมา รวมไปถึงได้รับความร่วมมือจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต ที่ได้ร่วมกันดำเนินการจัดงาน และสนับสนุนสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

ด้าน ผศ.ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดี กล่าวว่า “ขุนเลิศโภคารักษ์ มีชื่อเดิมว่า หลิม ตันบุญ เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2439 ท่านเป็นคนจีนฮกเกี้ยนที่เดินทางเสี่ยงโชคมายังเกาะภูเก็ต ชีวิตเริ่มต้นด้วยความยากลำบาก เริ่มจากการเป็นกรรมกรหาบเหมือง รับจ้างขับเรือยนต์โดยสาร ขายไม้ฟืน เปิดร้านขายกาแฟ แต่ด้วยความขยัน อดทน และซื่อสัตย์ ท่านมุมานะจนกลายเป็นเจ้าของกิจการ อาทิ เป็นนายเหมือง เป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย เช่น โรงแรมห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง เป็นต้น จึงถือได้ว่าท่านเป็นเศรษฐีคนหนึ่งในเกาะภูเก็ต กว่าจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น เส้นทางชีวิตของท่านต้องผ่านเรื่องราวมากมาย ด้วยชีวิตที่ประสบกับความยากลำบาก ครั้งหนึ่งท่านได้อธิษฐานก่อนเสี่ยงทายเซียมซี เพื่อตัดสินใจว่าท่านควรออกไปจากแผ่นดินภูเก็ตหรือไม่ แต่คำตอบที่ได้รับจากการเสี่ยงทายทั้ง 3 ครั้ง คือ “อย่าไป” สุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ และได้ทำกิจการเหมืองแร่จนเจริญรุ่งเรือง และประสบความสำเร็จในที่สุด


ขุนเลิศโภคารักษ์ เป็นบุคคลที่ชอบทำบุญ ทุกเช้าก่อนไปทำงานท่านจะตระเวนไหว้พระจีนตามศาลเจ้าต่างๆ นอกจากนี้ท่านยังเป็นผู้ที่มีความขยัน อดทน มีเจตนารมณ์ และอุดมการณ์แน่วแน่ในการประกอบสัมมาอาชีพด้วยความสุจริต จริงใจ ขยัน อดทน เสียสละ ซื่อสัตย์ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ดังเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ต้องประสบภาวะวิกฤติ โดนเค้นคำตอบจากทหารญี่ปุ่นเกี่ยวกับเอกสารลับสำคัญของ บริษัท ทุ่งคา ฮาเบอร์ บริษัททำเหมืองแร่ของชาวอังกฤษ ที่ท่านทำการค้าด้วย ท่านรักษาความลับโดยไม่กลัวภัยอันตรายใดๆ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ บริษัททุ่งคา ฮาเบอร์ จึงมีเมตตามอบที่ดินให้ทำกิจการเหมืองแร่เป็นของตนเอง ทำให้ชีวิตการงานของท่านเจริญรุ่งเรืองมาอย่างต่อเนื่อง



ขุนเลิศโภคารักษ์มีเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ในเรื่องการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ท่านจึงคอยช่วยเหลือผู้ที่มีความทุกข์ยาก ท่านได้บริจาคที่ดินส่วนบุคคลเพื่อใช้เป็นสาธารณประโยชน์ในหลาย ๆ แห่ง เช่น รพ.วชิระภูเก็ต โรงเรียนบ้านสะปำ “มงคลวิทยา” และ สถานที่แห่งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต หรือวิทยาลัยครูภูเก็ตในอดีต ท่านได้เสียสละที่ดินของท่านที่มีการทำเหมืองแร่ไปแล้ว จำนวน 273 ไร่ให้แก่ทางราชการ เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสทรงครองราชสมบัติครบ 25 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2514 การบริจาคครั้งยิ่งใหญ่นี้เป็นการบริจาคครั้งสุดท้ายของชีวิตก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตด้วยโรคชรา ในวันที่ 23 มกราคม 2514 รวมอายุ 76 ปี ถึงแม้กายท่านจะจากไปแต่นาม “ขุนเลิศโภคารักษ์” และคุณงามความดีของท่าน ยังคงประทับแน่นอยู่ในผืนแผ่นดินเกาะภูเก็ตโดยเฉพาะ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตแห่ง นี้ เพื่อเป็นต้นแบบแห่งความดีที่ประทับอยู่ในใจของคนภูเก็ต และชาวราชภัฏภูเก็ต ตลอดไป อธิการบดีกล่าว









